10 เทคนิคทาสีบ้านให้สวยและติดทนนาน
การทาสีบ้านเป็นหนึ่งในวิธีการปรับปรุงบ้านที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและยกระดับบรรยากาศภายในบ้านได้เป็นอย่างดี แต่การทาสีให้สวยงามและติดทนนานนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การใช้เทคนิคที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด วันนี้เราจึงอยากมาแชร์ 10 เทคนิคในการทาสีบ้านให้ออกมาสวยงามและติดทนนาน จะมีอะไรบ้างตามไปดูพร้อมกันได้เลย
การทาสีบ้านมีความสำคัญอย่างไร
การทาสีบ้านไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับตัวบ้านเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในหลาย ๆ ด้านที่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมและการอยู่อาศัย ดังนี้
1.ช่วยปกป้องพื้นผิวจากสภาพอากาศ
สีทาบ้านสามารถช่วยปกป้องพื้นผิวของบ้านจากสภาพอากาศที่ไม่คงที่ เช่น แสงแดด ความชื้น ฝน และลม โดยเฉพาะสีทาภายนอกที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผนังบ้านผุกร่อนจากการโดนฝนหรือรังสี UV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิววัสดุเสื่อมสภาพได้ง่าย
2.ช่วยเพิ่มความสวยงามและบรรยากาศที่น่าอยู่
การทาสีบ้านให้เหมาะสมกับสไตล์ของบ้านและรสนิยมของเจ้าของบ้านจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน ทำให้บ้านดูน่าอยู่และมีความสดใสมากขึ้น นอกจากนี้ สีทาบ้านยังช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสะท้อนถึงบุคลิกภาพของเจ้าของบ้านได้อีกด้วย
3.ช่วยปกป้องจากเชื้อโรคและสิ่งสกปรก
สีทาภายในบ้านสามารถช่วยป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกต่าง ๆ บนผนังได้ เช่น ฝุ่นหรือคราบน้ำมัน การทาสีจะทำให้พื้นผิวผนังทำความสะอาดได้ง่าย ทั้งยังช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคที่อาจมีผลเสียต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยอีกด้วย
4.ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน
การทาสีบ้านใหม่และดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านในกรณีที่ต้องการขายหรือให้เช่า สีบ้านที่สวยงามและดูแลดีจะทำให้บ้านดูใหม่และดึงดูดผู้ซื้อได้มากขึ้น
5.ปกป้องจากการเกิดเชื้อราหรือรอยแตกร้าว
สีทาบ้านสามารถช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราบนผนังได้โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำหรือห้องใต้ดิน เพราะสีบางประเภทมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราหรือการซึมของน้ำที่อาจทำให้เกิดรอยแตกร้าวและการเสื่อมสภาพของผนัง
รวม 10 เทคนิคทาสีบ้านยังไงให้สวยติดทน
1.เลือกสีที่เหมาะกับบ้าน
การเลือกสีที่เหมาะสมกับสไตล์และการใช้งานของบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญ ห้องที่มีการใช้งานมากอย่างห้องครัวหรือห้องน้ำควรเลือกใช้สีที่ทนทานต่อน้ำและความชื้น ขณะที่ห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นอาจเลือกสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย
2.เตรียมพื้นผิวให้พร้อมก่อนการทาสี
การเตรียมผิวก่อนทาสีเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการทาสีบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ มีฝุ่น และมีคราบมันจะทำให้สีไม่ติดทนนาน จึงควรทำความสะอาดผนังและขัดให้เรียบก่อนการทาสี
3.เลือกแปรงทาสีที่เหมาะสม
แปรงทาสีมีหลายประเภท แปรงที่มีขนแน่นจะเหมาะกับการทาสีพื้นที่กว้าง ส่วนแปรงที่มีขนยาวจะเหมาะกับการทาตามรอยต่อต่าง ๆ ซึ่งการเลือกแปรงที่เหมาะสมจะช่วยทำให้การทาสีเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดี
4.ใช้สีทาภายในและทาภายนอกที่เหมาะสม
สีทาภายในและทาภายนอกมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยสีทาภายนอกมักมีความทนทานต่อสภาพอากาศมากกว่าสีทาภายใน จึงควรเลือกใช้สีที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในแต่ละบริเวณของบ้าน
5.ทาสีให้เป็นชั้น ๆ
การทาสีหลายชั้นช่วยให้สีติดทนนานและมองเห็นสีชัด ควรทาสีพื้นฐาน 1-2 ชั้นก่อน แล้วทาทับด้วยสีทับหน้าอีก 1 - 2 ชั้น เพื่อให้ได้สีที่สม่ำเสมอและสวยงาม
6.ทาในสภาพอากาศที่เหมาะสม
หลีกเลี่ยงการทาสีในวันที่ฝนตกหรือมีความชื้นสูง เพราะจะทำให้สีไม่แห้งและติดไม่ทน ควรทาสีในวันที่อากาศแห้งและเย็น เพื่อให้สีแห้งเร็วติดทนนาน
7.ใช้เทคนิคการทาแบบ “X”
การทาสีแบบ “X” คือการทาสีในลักษณะสลับทิศทางกันไปมา ทำให้การทาสีมีความทั่วถึงและไม่ทิ้งรอยแปรง ทั้งยังช่วยทำให้สีสม่ำเสมอกันมากขึ้นอีกด้วย
8.ทาสีในบริเวณที่ไม่โดนแสงแดดโดยตรง
การทาสีบ้านในพื้นที่ที่โดนแสงแดดจัดอาจทำให้สีแห้งเร็วเกินไป จนเกิดรอยเส้นหรือไม่เรียบเนียน ควรเลือกทาสีในเวลาที่แสงแดดไม่แรงหรือทาสีในบริเวณที่ไม่ได้รับแสงแดดโดยตรงก่อน
9.ให้เวลาแห้งระหว่างการทาแต่ละชั้น
ไม่ควรทาสีชั้นที่สองทันทีหลังจากทาชั้นแรก ควรให้สีแห้งสนิทก่อนการทาซ้ำ เพื่อป้องกันการเลอะและทำให้สีติดทนนานมากขึ้น
10.ทำความสะอาดอุปกรณ์หลังการใช้งาน
หลังจากการทาสีเสร็จควรทำความสะอาดแปรงและอุปกรณ์ที่ใช้ให้สะอาด เพื่อให้สามารถใช้งานได้ในครั้งต่อไปโดยไม่เสียคุณภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านั้น
Comments
Post a Comment